
ในอดีต เส้นทางชีวิตที่สังคมมักกำหนดไว้ดูเหมือนจะเป็นสูตรสำเร็จตายตัว:
เรียนจบ → หางาน → แต่งงาน → มีลูก → สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์
แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z (เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2540–2555) สูตรสำเร็จนี้กำลังถูกตั้งคำถามและเขียนใหม่ พวกเขากำลังนำเสนอ “มุมมองใหม่” ที่ให้ความสำคัญกับเป้าหมายอื่นในชีวิต และนั่นส่งผลต่อโครงสร้างประชากรของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
สถิติการเกิดปี 2562–2566: เสียงสะท้อนจากโครงสร้างประชากร
นี่ไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่มีตัวเลขรองรับอย่างชัดเจน:
ปี | จำนวนเด็กเกิดใหม่ (คน) | หมายเหตุ |
---|---|---|
2562 | 586,646 | ก่อนเกิดโควิด-19 |
2563 | 545,961 | เริ่มมีผลจากการระบาดโควิด-19 |
2564 | 544,570 | แนวโน้มลดลงต่อเนื่อง |
2565 | 502,107 | ลดต่ำกว่าครึ่งล้านใกล้เคียง |
2566 | 485,085 | ต่ำที่สุดในรอบ 70 ปี |
ที่มา: สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตในปี 2566 อยู่ที่ 565,169 คน ส่งผลให้ไทยมีจำนวนประชากร “ลดลงสุทธิ” เป็นปีที่สองติดต่อกัน
แนวโน้มในช่วงต้นปี 2567 ยังคงชี้ว่าอัตราการเกิดยังอยู่ในระดับต่ำ และอาจลดลงต่อเนื่องอีกในอนาคต
อะไรคือเหตุผลเบื้องหลังการเลือกไม่มีลูกของ Gen Z?
1. โฟกัสที่งานและความมั่นคง: “ฉัน” ต้องมาก่อน
Gen Z เติบโตในยุคเศรษฐกิจผันผวน ค่าครองชีพสูง และแข่งขันสูง
ความมั่นคงทางการเงินจึงเป็นเป้าหมายสำคัญ
ภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูก: ค่าศึกษา ค่ารักษาพยาบาล และกิจกรรมพัฒนาทักษะต่าง ๆ ล้วนสูงเกินกว่าที่หลายคนจะรับได้
ความสำเร็จรูปแบบใหม่: ไม่จำกัดอยู่แค่การมีครอบครัวอีกต่อไป แต่คือการได้ทำงานที่รัก มีธุรกิจของตนเอง หรือมี “Side Hustle” ที่สร้างรายได้และอิสระทางการเงิน
2. นิยามใหม่ของความสัมพันธ์: อยู่คนเดียวก็มีความสุขได้
อิสรภาพสำคัญกว่า: การใช้ชีวิตคนเดียวโดยไม่ต้องประนีประนอมกับใคร กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
Chosen Family: สำหรับหลายคน “ครอบครัว” คือกลุ่มเพื่อนที่เข้าใจและคอยสนับสนุนกัน
ความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องมีปลายทาง: ไม่จำเป็นต้องแต่งงานหรือมีลูก เพียงแค่มีความสุขร่วมกันก็พอแล้ว
3. เซ็กส์ ความรัก และการมีลูก: ไม่จำเป็นต้องมาพร้อมกัน
เซ็กส์เพื่อความสุข: ความรู้เรื่องเพศและการคุมกำเนิด ทำให้เพศสัมพันธ์ไม่จำเป็นต้องผูกกับการมีลูก
Childfree by Choice: Gen Z จำนวนมากกล้าประกาศชัดว่า “ไม่อยากมีลูก”
เหตุผลมีตั้งแต่ความกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อม ความไม่มั่นคงทางการเงิน หรือแค่รู้สึกว่าชีวิตแบบไม่มีลูกคือคำตอบของตัวเอง
บทสรุป: ไม่ใช่การปฏิเสธ แต่คือ “การเลือก”
การที่ Gen Z มีลูกน้อยลง ไม่ใช่การปฏิเสธคุณค่าครอบครัว
แต่เป็นการ “ขยายนิยาม” ของคำว่า ความสุขและความสำเร็จ ในชีวิต
พวกเขาเลือก:
สร้างความมั่นคงให้ตัวเองก่อน
ใช้ชีวิตสอดคล้องกับคุณค่าของตน
มีความสัมพันธ์ที่ไม่จำกัดแค่ในกรอบดั้งเดิม
นี่คือความท้าทายใหญ่ของสังคมไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ
ภาครัฐควรปรับแนวนโยบายจากการ “รณรงค์ให้มีลูก”
เป็นการ “สร้างสวัสดิการและสภาพแวดล้อม” ที่ทำให้การมีลูกเป็นทางเลือกที่น่าลงทุนและเป็นไปได้จริงสำหรับคนรุ่นใหม่
เพราะท้ายที่สุดแล้ว การมีลูกหรือไม่ คือ “สิทธิส่วนบุคคล” ที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยได้ดีที่สุด