
ในปี 2025 การเลือกใช้ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การสร้างและจัดการเว็บไซต์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น CMS ต่างๆ มาพร้อมกับฟีเจอร์และเครื่องมือที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างเว็บไซต์ทั่วไป, บล็อก, อีคอมเมิร์ซ ไปจนถึงเว็บไซต์องค์กรขนาดใหญ่ การเลือก CMS ที่เหมาะสมกับประเภทและขนาดของเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 10 CMS ที่น่าสนใจและได้รับความนิยมในปี 2025 พร้อมทั้งเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียและคุณสมบัติเด่นของแต่ละตัวเลือก เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้ CMS ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเว็บไซต์ได้อย่างตรงจุดที่สุด.
1. WordPress
CMS ที่ได้รับความนิยมสูงสุด รองรับการใช้งานหลากหลาย เช่น บล็อกและธุรกิจขนาดเล็กถึงใหญ่ มีปลั๊กอินและธีมมากมาย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
ข้อดี: ใช้งานง่าย, ปรับแต่งได้มาก
ข้อเสีย: อาจมีปัญหาความปลอดภัยหากไม่ได้อัปเดต
2. Shopify
เหมาะสำหรับสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ มีระบบชำระเงินที่ปลอดภัยและใช้งานง่าย
ข้อดี: ใช้งานง่าย, ระบบการชำระเงินปลอดภัย
ข้อเสีย: ค่าธรรมเนียมสูง
3. Wix
CMS ที่ใช้งานง่ายด้วยระบบลากและวาง เหมาะสำหรับเว็บไซต์ทั่วไปและอีคอมเมิร์ซขนาดเล็ก
ข้อดี: ใช้งานง่าย, รองรับ SEO
ข้อเสีย: ฟังก์ชันการปรับแต่งจำกัด
4. Squarespace
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเว็บไซต์ที่มีดีไซน์สวยงามและใช้งานง่าย รองรับการทำอีคอมเมิร์ซ
ข้อดี: ดีไซน์สวย, ใช้งานง่าย
ข้อเสีย: ฟังก์ชันการปรับแต่งจำกัด
5. Joomla
CMS ที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดกลางถึงใหญ่ที่ต้องการการจัดการเนื้อหาหลายประเภท
ข้อดี: รองรับเนื้อหาหลายประเภท
ข้อเสีย: ตั้งค่าค่อนข้างซับซ้อน
6. Drupal
เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนสูง รองรับการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และการควบคุมผู้ใช้
ข้อดี: ความปลอดภัยสูง, ปรับแต่งได้มาก
ข้อเสีย: ต้องการทักษะการเขียนโค้ด
7. Ghost
เหมาะสำหรับบล็อกหรือเว็บไซต์ที่เน้นการอัปเดตเนื้อหาบ่อย มีความเร็วในการโหลดสูง
ข้อดี: ความเร็วสูง, ฟังก์ชัน SEO ดี
ข้อเสีย: ฟังก์ชันจำกัด
8. Webflow
CMS ที่มาพร้อมเครื่องมือออกแบบที่ยืดหยุ่น เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการการออกแบบที่กำหนดเอง
ข้อดี: ยืดหยุ่นในการออกแบบ
ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูง
9. Magento
เหมาะสำหรับการสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ รองรับการขายสินค้าจำนวนมาก
ข้อดี: รองรับอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่
ข้อเสีย: ต้องการทักษะเทคนิคสูง
10. HubSpot CMS
CMS ที่รวมเครื่องมือการตลาดออนไลน์ไว้ในตัว เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่
ข้อดี: เครื่องมือการตลาดและวิเคราะห์ดีเยี่ยม
ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูง
10 CMS ที่น่าใช้ในปี 2025 และการเปรียบเทียบ
CMS | ความง่ายในการใช้งาน | การปรับแต่ง | การสนับสนุนอีคอมเมิร์ซ | เหมาะสำหรับ |
---|---|---|---|---|
WordPress | สูง | สูง | ใช่ | เว็บไซต์ทั่วไป, บล็อก |
Shopify | สูง | ปานกลาง | ใช่ | อีคอมเมิร์ซ |
Wix | สูง | ต่ำ | ใช่ | เว็บไซต์ทั่วไป |
Squarespace | สูง | ต่ำ | ใช่ | เว็บไซต์ทั่วไป |
Joomla | ปานกลาง | สูง | ใช่ | เว็บไซต์ที่มีการจัดการเนื้อหาหนัก |
Drupal | ต่ำ | สูง | ใช่ | เว็บไซต์องค์กรขนาดใหญ่ |
Ghost | สูง | ต่ำ | ไม่รองรับ | บล็อก, เว็บไซต์เนื้อหาสด |
Webflow | ปานกลาง | สูง | ใช่ | เว็บไซต์ออกแบบที่ปรับแต่งได้สูง |
Magento | ต่ำ | สูง | ใช่ | อีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ |
HubSpot CMS | ปานกลาง | ปานกลาง | ใช่ | การตลาดออนไลน์, ธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่ |
สรุป
WordPress เหมาะสำหรับเว็บไซต์ทั่วไปและบล็อก
Shopify เหมาะสำหรับอีคอมเมิร์ซ
Wix และ Squarespace เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการสร้างเว็บไซต์สวยงาม
Joomla และ Drupal เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน
Magento เหมาะสำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่
Webflow เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการออกแบบที่ยืดหยุ่น
HubSpot CMS เหมาะสำหรับการทำการตลาดออนไลน์